เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 12. สุชาตพุทธวงศ์
[8] พระขีณาสพล้วนบรรลุอภิญญาและพลธรรม
ผู้ที่ยังไม่บรรลุในภพน้อยภพใหญ่
ประมาณ 6,000,000 รูป เหล่านั้นมาประชุมกัน ครั้งที่ 1
[9] ในการประชุมครั้งต่อมา
ในกาลเมื่อพระชินเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงสเทวโลก
มีพระขีณาสพประมาณ 5,000,000 รูป
มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 2
[10] พระอัครสาวกพร้อมด้วยพระขีณาสพประมาณ 400,000 รูป
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชน
[11] สมัยนั้น เราเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีพลานุภาพมาก
เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง 4 เหาะไปในอากาศได้
[12] เรานั้น เห็นความอัศจรรย์น่าประหลาดใจ
ให้เกิดขนพองสยองเกล้าในโลก
จึงเข้าไปกราบพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุชาตะทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
[13] เรามอบถวายราชสมบัติเป็นอันมากในทวีปทั้ง 4
และรัตนะ 7 ประการอันอุดมในพระพุทธเจ้าแล้ว
จึงบวชในสำนักของพระองค์
[14] พวกคนรักษาอารามได้รวบรวมสิ่งที่เกิดขึ้นในชนบท
น้อมปัจจัย1 ที่นอน ที่นั่งเข้าไปถวายภิกษุสงฆ์
[15] ครั้งนั้น แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้เป็นใหญ่ในหมื่นจักรวาล
ก็ทรงพยากรณ์เราว่า
“ในที่สุด 30,000 กัป ผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า”
พระตถาคตได้เสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ที่น่ารื่นรมย์

เชิงอรรถ :
1 ปัจจัย หมายถึงปัจจัยต่าง ๆ มีจีวรเป็นต้น (ขุ.พุทธ.อ. 14/298)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :651 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 12. สุชาตพุทธวงศ์
[16] พระตถาคตทรงเริ่มตั้งความเพียร
บำเพ็ญทุกรกิริยา จักประทับนั่งที่โคนต้นอชปาลนิโครธ
ทรงรับข้าวปายาสในที่นั้น แล้วเสด็จไปยังแม่น้ำเนรัญชรา
พระชินเจ้าพระองค์นั้นจักเสวยข้าวปายาส
ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราแล้วเสด็จไปที่โคนต้นโพธิ์
ตามหนทางอันประเสริฐที่ตกแต่งไว้แล้ว
จากนั้น พระองค์ผู้มีพระยศยิ่งใหญ่
จักทำประทักษิณโพธิมัณฑ์อันยอดเยี่ยมแล้ว
ตรัสรู้ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์
พระมารดาผู้ให้กำเนิดพระชินเจ้าพระองค์นี้
จักมีพระนามว่ามายา
พระบิดาจักมีพระนามว่าสุทโธทนะ
พระชินเจ้าพระองค์นี้จักมีพระนามว่าโคดม
พระโกลิตเถระและพระอุปติสสเถระ
ผู้ไม่มีอาสวะ สิ้นราคะ มีจิตสงบ
ตั้งมั่นดี จักเป็นพระอัครสาวก
พระเถระนามว่าอานนท์ จักเป็นพระอุปัฏฐาก
บำรุงพระชินเจ้าพระองค์นี้
พระเขมาเถรีและพระอุบลวรรณาเถรี
ผู้ไม่มีอาสวะ สิ้นราคะ มีจิตสงบ
ตั้งมั่นดี จักเป็นพระอัครสาวิกา
ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ชาวโลกเรียกว่า ต้นอัสสัตถพฤกษ์
จิตตคหบดีอุบาสกและหัตถกคหบดีอุบาสก
ชาวเมืองอาฬวี จักเป็นอัครอุปัฏฐาก
นันทมารดาอุบาสิกาและอุตตราอุบาสิกา
จักเป็นอัครอุปัฏฐายิกา
พระโคดมผู้มียศพระองค์นั้นจักมีพระชนมายุประมาณ 100 ปี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :652 }